วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Happy birth day 19.11.2008

HAPPY BIRTH DAY TO SONG

สองเกิดวันที่ 19 พฤศจิกายน 2517 ณ แม่ฮ่องสอน

ตอนเด็กๆชอบปีนป่ายที่กั้น แทะรองเท้า และกินอึตัวเองเวลาแม่เผลอ ตอนโตเลยเรียนเก่ง ได้เป็นหมอฟัน

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เมืองสำคัญภูมิภาคคันไซ

เมืองสำคัญภูมิภาคคันไซ (เกียวโต นารา โอซาก้า โกเบ ฮิเมจิ)
ภูมิภาคคันไซเจริญก้าวหน้าในฐานะที่เป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของญี่ปุ่นยาวนานตั้งแต่สมัยอดีต คันไซเป็นภูมิภาคที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นอย่างชัดเจนแม้กระทั่งในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศที่พิเศษมาก สร้างความคึกคักให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

โอซาก้า (Osaka)
เป็นเมืองธุรกิจที่สำคัญและมีการเจริญเติบโตมาอย่างยาวนาน โอซาก้าได้รับสมญานามมากมาย เช่น เมืองแห่งสายธาร เพราะเต็มไปด้วยแม่น้ำลำคลอง หรือจะเป็นนครพันสะพาน เนื่องจากมีสะพานเกือบพันแห่ง แม่น้ำและสะพานเหล่านี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าและวัตถุดิบเข้าออกโอซาก้า ซึ่งเป็นประตูส่งออกที่สำคัญ โอซาก้ามีระบบขนส่งรถไฟและรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่ จึงทำให้เดินทางเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย
จุดท่องเที่ยวจึงมักเริ่มที่สถานีรถไฟโอซาก้า (Osaka Station) ในอุเมดะ เพราะรถไฟส่วนใหญ่ยกเว้นชินคังเซ็น จะวิ่งมาถึงสถานีนี้ ใต้สถานีรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่มีแหล่งชอปปิ้งถึงสามช่วงสถานีรถไฟให้เดินสำรวจกันจนเมื่อย แหล่งตรงนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้า และร้านอาหารมากมายนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อถึง


โกเบ เมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ ภูมิภาคคันไซ ชม อ่าวโกเบ หอคอยชมวิวที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองโกเบได้ถึง 360 องศา ท่านจะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเมืองโกเบที่มีความเจริญและทันสมัยขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 12 ปี หลังจากที่เมืองโกเบประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด ในปี 1995 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านที่นี่กว่า 500 หลังคาเรือน

เมืองฮิเมจิ ที่ตั้งของ ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่คงรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ และ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สามารถเดินไปจากสถานีฮิเมจิ ซึ่งไม่ไกลจาก

เกียวโต เมืองหลวงแห่งที่ 2 ของญี่ปุ่นที่เคยรุ่งโรจน์มากกว่า 1,000 ปี ซึ่งในปัจจุบันบรรยากาศภายในเมืองยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์แขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามจากอดีตกาล

นาราเมืองนารา ห่างจากทางใต้ของเกียวโต 43 กิโลเมตร หรือ 30 นาที เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่นก่อนเมืองเกียวโต เป็นเมืองสำคัญที่รวบรวมเอาศิลปะ งานหัตถกรรม วรรณคดี และประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ใกล้กับสถานีนารา เป็น สวนสาธารณะนารา หรือที่รู้จักกันว่าเป็นสวนกวาง เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยของกวางเชื่อง

Happiness tour to Japan วันที่ 6

วันที่ 6
10 พ.ย.51 ตื่น 5.00 น. ออกจากโรงแรม 5.45 น. โดยแท็กซี่ เพื่อไปสถานีเกียวโต
นั่ง Haruka เที่ยว 6.22 น.ถึง สนามบินKansai 7.42 น.
 อำลา ญี่ปุ่น ด้วยสายการบินคาเธ่แปซิฟิก
 เดินทาง ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ 16.20 น.
แล้วพบกันใหม่.................tripหน้า สวัสดีค่ะ
Trip design by Song
Writing by Gain
Photo by Mai
Japanese Translation by Nid

Happiness tour to Japan

วันที่ 5
9พ.ย.51 5.00น. ตื่นแต่เช้าตรู่ เดินทางไปวัดน้ำใส โดยแท็กซี่

 วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาฮิงาชิยาม่า และมีท่อนซุงวางเรียงซ้อนกันตามแนวนอนตั้งจากพื้นดินขึ้นมารองรับระเบียงของตัววิหารใหญ่ จากระเบียงแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองเกียวโตได้งดงาม และเชิญดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์สามสายอันเกิดขึ้นจากธรรมชาติที่ไหลมาจากเทือกเขา ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
*นั่งรถบัส ไปยัง สถานีเกียวโต โดย 101,205
*ซื้อบัตรJR ไปนารา –เดินทางไปวัดโดยแท็กซี่
12.00 น.นำท่านเดินทางสู่ เมืองนารา
 “ เมืองนารา ” เมืองหลวงแห่งแรกของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่มีความรุ่งโรจน์มากในด้านของพระพุทธศาสนา

 ชม วัดโทไดจิ ซึ่งเป็นวิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 พระพุทธรูปองค์นี้สูง 16.2 เมตร หนัก 452 ตัน และระหว่างทางเดินสู่วิหารแห่งนี้ ท่านจะได้เพลิดเพลินกับกวางแสนเชื่องที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ..
 ที่นี่มีขนมโมจิที่โด่งดัง (ร้านNakataridou) ถนน sanjo shopping street และซูชิห่อใบพลับ มีแบบtake home ด้วย
*ขากลับเดินหาอาหารกิน กลับมายังสถานี JR NARA กลับเกียวโต
 เก็บตก รอบๆสถานีเกียวโต ซื้อของฝาก
 พักที่ ECONO INN เก็บของใส่กระเป๋า พักผ่อน

Happiness tour to Japan วันที่ 4

วันที่ 4
8พ.ย.51
ตื่นแต่เช้า 6.00น. ออกจาก WMT (M19-M24)
นั่งรถไปเกียวโต เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม Econo inn(ไปกลับแท็กซี่)
*นั่งรถไฟสาย JR Sagano Line จากเกียวโต ไปลงที่ SagaArashiyama ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
 Arashiyamaอาราชิยามาเป็นชื่อภูเขาและเป็นชื่อเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติขุนเขาและสายน้ำ วัดและร้านค้าต่างๆมากมาย จะเดินเที่ยวหรือปั่นจักรยานก็สามารถทำได้สิ่งน่าสนใจอาทิ วัด ป่าไผ่ แม่น้ำ ต้นไม้ ผู้คน
 วัด เท็นริวจิ Tenryuji, ตั้งอยู่ในส่วนกลางของ Arashiyama, สร้างในปี 1339 และถูกจัดอันดับเป็นที่ 1 ใน 5 อันดับ วัดเซ็นที่ดีที่สุด ของเกียวโต
*ช่วงบ่ายๆ นั่งJR กลับสถานีเกียวโต เดินทางต่อไปยัง ศาลเจ้า Fushimi Inari

 ศาลเจ้า Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโต สร้างขึ้นเพื่อบูชาท่าน Inari เทพเจ้าแห่งข้าว จุดเด่นของที่นี่คือเสา Torii เรียงรายกันเป็นแนวยาวแถมยังมีหลายเส้นทางด้วย จำนวนของ Torii นั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 40,000 ต้นเลยทีเดียว นอกจาก Torii ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่แล้ว ยังมีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกที่เค้าเปรียบเสมือนผู้นำสารของท่าน Inari ซึ่งจะคอยเฝ้าอยู่ทุกทางเข้า Torii ด้วยTorii มากกว่า 40,000 ต้น รอให้เราวิ่งไปสุดปลายทางเพื่อขอพรให้สมหวัง แบบใน The Memory of Geisha

*กลับเกียวโต ไปเดินเล่นย่าน GION
 ย่านกิออง อยู่ใกล้กับ ถนนชิโจะ-คะวะระมะจิ เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับชมศิลปะเก่าแก่และละครพื้นบ้าน ร้านอาหารแบบดั้งเดิมเรียงรายตามถนนเพิ่มความโดดเด่นให้กับบรรยากาศที่ละเอียดอ่อน หรือ SHIJO STREET
 หาอาหารเย็นกิน
 เข้าพักที่ ECONO INN

Happiness tour to Japan วันที่ 3

วันที่ 3
7พ.ย 51
6.00 -7.30น. ออกเดินทางจากWMT M19- M24-haruka ไปยัง เกียวโต ถึง สถานีเกียวโต นั่งซับเวย์ karasuma line K11 ไปลง สถานี Kitaoji K4 ต่อรถบัส 204 หรือ แท็กซี่ ไปยังวัดทอง คินคาคูจิ(kinkakuji)หรือวัดอิคคิวซัง
 วัดคินคาคุจิ หรือ 'วัดทอง' ย้อนเวลากลับไปในยุคที่โชกุนเรืองอำนาจ วัดแห่งนี้ เดิมชื่อ วัดโระคุอนจิ (Rokuonji) เป็นวัดเซน นิกายรินไซ เมื่อปี ค.ศ. 1397 โชกุนอะชิคะงะ โยะชิมิทสึ (Ashikaga Yoshimitsu, ค.ศ.1358-1408) มีความประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พำนักตากอากาศ เมื่อท่านถึงแก่กรรมบุตรชายจึงยกให้เป็นวัดเซนเมื่อ ค.ศ. 1419 โดยใช้ชื่อว่า โระคุอนจิ ตามชื่อภายหลังความตายของบิดา คินคาคุจิมีสามชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นห้องโถงแบบขุนนางสมัยราชสำนักเฮอัน ชั้นที่สองเป็นแบบที่นักรบนิยม ชั้นสูงสุดคือชั้นที่สามเป็นแบบหอปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนานิกายเซน ชั้นสองและสามใช้แผ่นทองปิดโดยรอบ บนยอดวิหารประดับด้วยนกโฮโอสัมฤทธิ์ นกโฮโอนี้เป็นนกในจินตนาการ โดยทั่วไปมักสร้างประดับคู่สถานที่สำคัญ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ ศาลาทอง หรือวิหารทอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นการผสมผสานศิลปะหลายแขนงเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นแบบราชสำนักเฮอัน นักรบซามูไร หรือพุทธศาสนาซึ่งมาจากวัฒนธรรมสามสาขา ทั้งญี่ปุ่น จีน และอินเดีย สถาปัตยกรรมอันวิจิตรนี้ไม่เพียงดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก กล่าวกันว่าคนญี่ปุ่นในยุคแรกสร้างก็ยังตื่นตะลึงในความงามราวเนรมิต สำหรับคินคาคุจิที่โลกได้ยลโฉมหลัง ค.ศ. 1955 นั้น เป็นหลังที่สร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากถูกวางเพลิงจนมอดไหม้เป็นจุณ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1950
มุมมองที่สวยที่สุดของศาลาทอง คือการชมอาคารที่ตั้งอยู่บนดินพร้อมๆ กับที่สะท้อนอยู่ในน้ำ รอบๆ ของศาลาทองเป็นสระน้ำใสราวกระจก เรียกว่า 'เคียวโขะ' คนทั่วไปมักจะได้เห็นภาพนี้ในโปสการ์ดหรือหนังสือท่องเที่ยว แต่ถ้าใครเคยดูเณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง คงพอจะคุ้นตาว่านี่คือสถานที่พำนักของโชกุนเจ้าปัญหาในเรื่องนั่นเอง
12.00น. ออกจากวัดทอง ไปปราสาทนิโจโดยบัส N 204ลงป้ายHorikawa Marutomachi (หาของกินก่อนเข้าปราสาท)

 นำท่านชมมรดกโลกแห่งเมืองเกียวโต “ ปราสาทนิโจ ” ( Nijo Castle ) ปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังอำนาจและรัฐบาลภายใต้การดูโชกุน โตกุงาว่า ซึ่งถูกสร้างขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1603 โดย Ieyasu Tokugawa เพื่อเป็นที่พักแห่งแรกของโชกุนตระกูลนี้ และยังเป็นการสร้างเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม Sekigahara … อิสระให้ท่านได้ตื่นตากับความงามและความพิเศษในการปลูกสร้างของตัวปราสาทแห่งนี้ พร้อมบันทึกภาพความงามตามอัธยาศัย ..ส่วนจุดเด่นที่นี่ Nightingale Floors คือพื้นไม้ในปราสาทที่มีเสียงนกไนติงเกลเมื่อมีคนเดินผ่าน

*ออกจากปราสาทนิโจ กลับมายัง สถานีเกียวโต โดย subway nijojomae T14-T13 Karusuma Oike K08 เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว ลง เกียวโต K11
*นั่ง JR Nara line ไปยังเมือง Uji เพื่อเที่ยววัดByodoin



 Uji เมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยิ่งของญี่ปุ่น อยู่ทางใต้ของ Kyoto ที่มีชี่อเสียงมากคือ
 Byodoin Temple - กับพระพุทธรูป พระอมิตาภะพุทธเจ้า - UNESCO World Heritage 1994 ( รูปวัดที่ปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยน )
 แหล่งชาเขียวชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น รวมทั้ง Tsuen Tea ซึ่งจำหน่ายและเสริฟชาตั้งแต่ปีค.ศ.1160 - ถือเป็นร้านน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น อาจเก่าแก่ที่สุดในโลกก็ได้ ( ร้านดั้งเดิมยังดำเนินกิจการอยู่ข้างสะพาน Uji Bridge )
 ดื่มด่ำบรรยากาศ แม่น้ำอุจิ กินไอติมรสชาเขียว และขนมจากชาเขียว

*เวลาเย็น ออกจากอุจิ มายังสถานีเกียวโต เดินทางกลับโอซาก้า โดย Haruka ลง Shin Osaka subway ShinsaibashiM19
 หาอาหารเย็นกิน ชาบู อูด้ง ราเมง
 พักผ่อน ณ Flexstay Shinsaibashi Inn Hotel *แพคกระเป๋าเตรียมไปนอนเกียวโต

Happiness tour to Japan วันที่2

วันที่ 2
6พ.ย 51
6.00น.-7.00น. ออกเดินทางโดยซับเวย์สายแดง m19-m16 ณ สถานีโอซาก้า osaka station ขึ้น JR Kobe line ไปยัง ฮิเมจิ Himeji ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
9.30น. ถึง Himeji เดินทางสู่ปราสาทฮิเมจิ (姫路城Himeji-jo, Himeji Castle)
 ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีงดงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก


12.00น. เดินทางไปยังโกเบ (Kobe)
 เดินทางภายในเมืองโดย taxi หรือ bus (สถานที่น่าสนใจ อ่าวโกเบ หอคอย เข้าไปเดินเล่นใน Mosaic มี 3 ชั้น (2f-22 DONGURI KYOkWAKOKUของที่ระลึกจาก Studio Ghibli

16.00น. เดินทางกลับโอซาก้า โดยJR ใช้เวลาประมาณ 20 นาที m16-m19
 Shopping ตามอัธยาศัยที่ hinsaibashi “ ชินไซบาชิ ” แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองโอซาก้า เพลิดเพลินกับการ “ เลือกชมและซื้อ ” สินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องสำอาง, ข้าวของเครื่องใช้ของทั้งท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็คโทนิค หรือสนุกสนานกับการซื้อของแบบสบายๆ กระเป๋าที่ “ ร้าน 100 เยน ” /Den Den/
 อาหารเย็น อาจเป็นชาบู ราเมง ปูยักษ์
 พักผ่อน ณ Flexstay Shinsaibashi Inn Hotel