HAPPY BIRTH DAY TO SONG
สองเกิดวันที่ 19 พฤศจิกายน 2517 ณ แม่ฮ่องสอน
ตอนเด็กๆชอบปีนป่ายที่กั้น แทะรองเท้า และกินอึตัวเองเวลาแม่เผลอ ตอนโตเลยเรียนเก่ง ได้เป็นหมอฟัน
วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551
เมืองสำคัญภูมิภาคคันไซ
เมืองสำคัญภูมิภาคคันไซ (เกียวโต นารา โอซาก้า โกเบ ฮิเมจิ)
ภูมิภาคคันไซเจริญก้าวหน้าในฐานะที่เป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของญี่ปุ่นยาวนานตั้งแต่สมัยอดีต คันไซเป็นภูมิภาคที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นอย่างชัดเจนแม้กระทั่งในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศที่พิเศษมาก สร้างความคึกคักให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี
โอซาก้า (Osaka)
เป็นเมืองธุรกิจที่สำคัญและมีการเจริญเติบโตมาอย่างยาวนาน โอซาก้าได้รับสมญานามมากมาย เช่น เมืองแห่งสายธาร เพราะเต็มไปด้วยแม่น้ำลำคลอง หรือจะเป็นนครพันสะพาน เนื่องจากมีสะพานเกือบพันแห่ง แม่น้ำและสะพานเหล่านี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าและวัตถุดิบเข้าออกโอซาก้า ซึ่งเป็นประตูส่งออกที่สำคัญ โอซาก้ามีระบบขนส่งรถไฟและรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่ จึงทำให้เดินทางเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย
จุดท่องเที่ยวจึงมักเริ่มที่สถานีรถไฟโอซาก้า (Osaka Station) ในอุเมดะ เพราะรถไฟส่วนใหญ่ยกเว้นชินคังเซ็น จะวิ่งมาถึงสถานีนี้ ใต้สถานีรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่มีแหล่งชอปปิ้งถึงสามช่วงสถานีรถไฟให้เดินสำรวจกันจนเมื่อย แหล่งตรงนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้า และร้านอาหารมากมายนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อถึง
โกเบ เมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ ภูมิภาคคันไซ ชม อ่าวโกเบ หอคอยชมวิวที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองโกเบได้ถึง 360 องศา ท่านจะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเมืองโกเบที่มีความเจริญและทันสมัยขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 12 ปี หลังจากที่เมืองโกเบประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด ในปี 1995 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านที่นี่กว่า 500 หลังคาเรือน
เมืองฮิเมจิ ที่ตั้งของ ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่คงรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ และ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สามารถเดินไปจากสถานีฮิเมจิ ซึ่งไม่ไกลจาก
เกียวโต เมืองหลวงแห่งที่ 2 ของญี่ปุ่นที่เคยรุ่งโรจน์มากกว่า 1,000 ปี ซึ่งในปัจจุบันบรรยากาศภายในเมืองยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์แขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามจากอดีตกาล
นาราเมืองนารา ห่างจากทางใต้ของเกียวโต 43 กิโลเมตร หรือ 30 นาที เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่นก่อนเมืองเกียวโต เป็นเมืองสำคัญที่รวบรวมเอาศิลปะ งานหัตถกรรม วรรณคดี และประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ใกล้กับสถานีนารา เป็น สวนสาธารณะนารา หรือที่รู้จักกันว่าเป็นสวนกวาง เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยของกวางเชื่อง
ภูมิภาคคันไซเจริญก้าวหน้าในฐานะที่เป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของญี่ปุ่นยาวนานตั้งแต่สมัยอดีต คันไซเป็นภูมิภาคที่มีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นอย่างชัดเจนแม้กระทั่งในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศที่พิเศษมาก สร้างความคึกคักให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี
โอซาก้า (Osaka)
เป็นเมืองธุรกิจที่สำคัญและมีการเจริญเติบโตมาอย่างยาวนาน โอซาก้าได้รับสมญานามมากมาย เช่น เมืองแห่งสายธาร เพราะเต็มไปด้วยแม่น้ำลำคลอง หรือจะเป็นนครพันสะพาน เนื่องจากมีสะพานเกือบพันแห่ง แม่น้ำและสะพานเหล่านี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าและวัตถุดิบเข้าออกโอซาก้า ซึ่งเป็นประตูส่งออกที่สำคัญ โอซาก้ามีระบบขนส่งรถไฟและรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่ จึงทำให้เดินทางเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย
จุดท่องเที่ยวจึงมักเริ่มที่สถานีรถไฟโอซาก้า (Osaka Station) ในอุเมดะ เพราะรถไฟส่วนใหญ่ยกเว้นชินคังเซ็น จะวิ่งมาถึงสถานีนี้ ใต้สถานีรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่มีแหล่งชอปปิ้งถึงสามช่วงสถานีรถไฟให้เดินสำรวจกันจนเมื่อย แหล่งตรงนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้า และร้านอาหารมากมายนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อถึง
โกเบ เมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ ภูมิภาคคันไซ ชม อ่าวโกเบ หอคอยชมวิวที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองโกเบได้ถึง 360 องศา ท่านจะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเมืองโกเบที่มีความเจริญและทันสมัยขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 12 ปี หลังจากที่เมืองโกเบประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด ในปี 1995 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านที่นี่กว่า 500 หลังคาเรือน
เมืองฮิเมจิ ที่ตั้งของ ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่คงรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ และ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สามารถเดินไปจากสถานีฮิเมจิ ซึ่งไม่ไกลจาก
เกียวโต เมืองหลวงแห่งที่ 2 ของญี่ปุ่นที่เคยรุ่งโรจน์มากกว่า 1,000 ปี ซึ่งในปัจจุบันบรรยากาศภายในเมืองยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์แขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามจากอดีตกาล
นาราเมืองนารา ห่างจากทางใต้ของเกียวโต 43 กิโลเมตร หรือ 30 นาที เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่นก่อนเมืองเกียวโต เป็นเมืองสำคัญที่รวบรวมเอาศิลปะ งานหัตถกรรม วรรณคดี และประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ใกล้กับสถานีนารา เป็น สวนสาธารณะนารา หรือที่รู้จักกันว่าเป็นสวนกวาง เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยของกวางเชื่อง
Happiness tour to Japan วันที่ 6
วันที่ 6
10 พ.ย.51 ตื่น 5.00 น. ออกจากโรงแรม 5.45 น. โดยแท็กซี่ เพื่อไปสถานีเกียวโต
นั่ง Haruka เที่ยว 6.22 น.ถึง สนามบินKansai 7.42 น.
อำลา ญี่ปุ่น ด้วยสายการบินคาเธ่แปซิฟิก
เดินทาง ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ 16.20 น.
แล้วพบกันใหม่.................tripหน้า สวัสดีค่ะ
Trip design by Song
Writing by Gain
Photo by Mai
Japanese Translation by Nid
10 พ.ย.51 ตื่น 5.00 น. ออกจากโรงแรม 5.45 น. โดยแท็กซี่ เพื่อไปสถานีเกียวโต
นั่ง Haruka เที่ยว 6.22 น.ถึง สนามบินKansai 7.42 น.
อำลา ญี่ปุ่น ด้วยสายการบินคาเธ่แปซิฟิก
เดินทาง ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ 16.20 น.
แล้วพบกันใหม่.................tripหน้า สวัสดีค่ะ
Trip design by Song
Writing by Gain
Photo by Mai
Japanese Translation by Nid
Happiness tour to Japan
วันที่ 5
9พ.ย.51 5.00น. ตื่นแต่เช้าตรู่ เดินทางไปวัดน้ำใส โดยแท็กซี่
วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาฮิงาชิยาม่า และมีท่อนซุงวางเรียงซ้อนกันตามแนวนอนตั้งจากพื้นดินขึ้นมารองรับระเบียงของตัววิหารใหญ่ จากระเบียงแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองเกียวโตได้งดงาม และเชิญดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์สามสายอันเกิดขึ้นจากธรรมชาติที่ไหลมาจากเทือกเขา ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
*นั่งรถบัส ไปยัง สถานีเกียวโต โดย 101,205
*ซื้อบัตรJR ไปนารา –เดินทางไปวัดโดยแท็กซี่
12.00 น.นำท่านเดินทางสู่ เมืองนารา
“ เมืองนารา ” เมืองหลวงแห่งแรกของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่มีความรุ่งโรจน์มากในด้านของพระพุทธศาสนา
ชม วัดโทไดจิ ซึ่งเป็นวิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 พระพุทธรูปองค์นี้สูง 16.2 เมตร หนัก 452 ตัน และระหว่างทางเดินสู่วิหารแห่งนี้ ท่านจะได้เพลิดเพลินกับกวางแสนเชื่องที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ..
ที่นี่มีขนมโมจิที่โด่งดัง (ร้านNakataridou) ถนน sanjo shopping street และซูชิห่อใบพลับ มีแบบtake home ด้วย
*ขากลับเดินหาอาหารกิน กลับมายังสถานี JR NARA กลับเกียวโต
เก็บตก รอบๆสถานีเกียวโต ซื้อของฝาก
พักที่ ECONO INN เก็บของใส่กระเป๋า พักผ่อน
9พ.ย.51 5.00น. ตื่นแต่เช้าตรู่ เดินทางไปวัดน้ำใส โดยแท็กซี่
วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาฮิงาชิยาม่า และมีท่อนซุงวางเรียงซ้อนกันตามแนวนอนตั้งจากพื้นดินขึ้นมารองรับระเบียงของตัววิหารใหญ่ จากระเบียงแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองเกียวโตได้งดงาม และเชิญดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์สามสายอันเกิดขึ้นจากธรรมชาติที่ไหลมาจากเทือกเขา ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
*นั่งรถบัส ไปยัง สถานีเกียวโต โดย 101,205
*ซื้อบัตรJR ไปนารา –เดินทางไปวัดโดยแท็กซี่
12.00 น.นำท่านเดินทางสู่ เมืองนารา
“ เมืองนารา ” เมืองหลวงแห่งแรกของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่มีความรุ่งโรจน์มากในด้านของพระพุทธศาสนา
ชม วัดโทไดจิ ซึ่งเป็นวิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 พระพุทธรูปองค์นี้สูง 16.2 เมตร หนัก 452 ตัน และระหว่างทางเดินสู่วิหารแห่งนี้ ท่านจะได้เพลิดเพลินกับกวางแสนเชื่องที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ..
ที่นี่มีขนมโมจิที่โด่งดัง (ร้านNakataridou) ถนน sanjo shopping street และซูชิห่อใบพลับ มีแบบtake home ด้วย
*ขากลับเดินหาอาหารกิน กลับมายังสถานี JR NARA กลับเกียวโต
เก็บตก รอบๆสถานีเกียวโต ซื้อของฝาก
พักที่ ECONO INN เก็บของใส่กระเป๋า พักผ่อน
Happiness tour to Japan วันที่ 4
วันที่ 4
8พ.ย.51
ตื่นแต่เช้า 6.00น. ออกจาก WMT (M19-M24)
นั่งรถไปเกียวโต เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม Econo inn(ไปกลับแท็กซี่)
*นั่งรถไฟสาย JR Sagano Line จากเกียวโต ไปลงที่ SagaArashiyama ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
Arashiyamaอาราชิยามาเป็นชื่อภูเขาและเป็นชื่อเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติขุนเขาและสายน้ำ วัดและร้านค้าต่างๆมากมาย จะเดินเที่ยวหรือปั่นจักรยานก็สามารถทำได้สิ่งน่าสนใจอาทิ วัด ป่าไผ่ แม่น้ำ ต้นไม้ ผู้คน
วัด เท็นริวจิ Tenryuji, ตั้งอยู่ในส่วนกลางของ Arashiyama, สร้างในปี 1339 และถูกจัดอันดับเป็นที่ 1 ใน 5 อันดับ วัดเซ็นที่ดีที่สุด ของเกียวโต
*ช่วงบ่ายๆ นั่งJR กลับสถานีเกียวโต เดินทางต่อไปยัง ศาลเจ้า Fushimi Inari
ศาลเจ้า Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโต สร้างขึ้นเพื่อบูชาท่าน Inari เทพเจ้าแห่งข้าว จุดเด่นของที่นี่คือเสา Torii เรียงรายกันเป็นแนวยาวแถมยังมีหลายเส้นทางด้วย จำนวนของ Torii นั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 40,000 ต้นเลยทีเดียว นอกจาก Torii ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่แล้ว ยังมีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกที่เค้าเปรียบเสมือนผู้นำสารของท่าน Inari ซึ่งจะคอยเฝ้าอยู่ทุกทางเข้า Torii ด้วยTorii มากกว่า 40,000 ต้น รอให้เราวิ่งไปสุดปลายทางเพื่อขอพรให้สมหวัง แบบใน The Memory of Geisha
*กลับเกียวโต ไปเดินเล่นย่าน GION
ย่านกิออง อยู่ใกล้กับ ถนนชิโจะ-คะวะระมะจิ เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับชมศิลปะเก่าแก่และละครพื้นบ้าน ร้านอาหารแบบดั้งเดิมเรียงรายตามถนนเพิ่มความโดดเด่นให้กับบรรยากาศที่ละเอียดอ่อน หรือ SHIJO STREET
หาอาหารเย็นกิน
เข้าพักที่ ECONO INN
8พ.ย.51
ตื่นแต่เช้า 6.00น. ออกจาก WMT (M19-M24)
นั่งรถไปเกียวโต เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม Econo inn(ไปกลับแท็กซี่)
*นั่งรถไฟสาย JR Sagano Line จากเกียวโต ไปลงที่ SagaArashiyama ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
Arashiyamaอาราชิยามาเป็นชื่อภูเขาและเป็นชื่อเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติขุนเขาและสายน้ำ วัดและร้านค้าต่างๆมากมาย จะเดินเที่ยวหรือปั่นจักรยานก็สามารถทำได้สิ่งน่าสนใจอาทิ วัด ป่าไผ่ แม่น้ำ ต้นไม้ ผู้คน
วัด เท็นริวจิ Tenryuji, ตั้งอยู่ในส่วนกลางของ Arashiyama, สร้างในปี 1339 และถูกจัดอันดับเป็นที่ 1 ใน 5 อันดับ วัดเซ็นที่ดีที่สุด ของเกียวโต
*ช่วงบ่ายๆ นั่งJR กลับสถานีเกียวโต เดินทางต่อไปยัง ศาลเจ้า Fushimi Inari
ศาลเจ้า Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโต สร้างขึ้นเพื่อบูชาท่าน Inari เทพเจ้าแห่งข้าว จุดเด่นของที่นี่คือเสา Torii เรียงรายกันเป็นแนวยาวแถมยังมีหลายเส้นทางด้วย จำนวนของ Torii นั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 40,000 ต้นเลยทีเดียว นอกจาก Torii ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่แล้ว ยังมีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกที่เค้าเปรียบเสมือนผู้นำสารของท่าน Inari ซึ่งจะคอยเฝ้าอยู่ทุกทางเข้า Torii ด้วยTorii มากกว่า 40,000 ต้น รอให้เราวิ่งไปสุดปลายทางเพื่อขอพรให้สมหวัง แบบใน The Memory of Geisha
*กลับเกียวโต ไปเดินเล่นย่าน GION
ย่านกิออง อยู่ใกล้กับ ถนนชิโจะ-คะวะระมะจิ เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับชมศิลปะเก่าแก่และละครพื้นบ้าน ร้านอาหารแบบดั้งเดิมเรียงรายตามถนนเพิ่มความโดดเด่นให้กับบรรยากาศที่ละเอียดอ่อน หรือ SHIJO STREET
หาอาหารเย็นกิน
เข้าพักที่ ECONO INN
Happiness tour to Japan วันที่ 3
วันที่ 3
7พ.ย 51
6.00 -7.30น. ออกเดินทางจากWMT M19- M24-haruka ไปยัง เกียวโต ถึง สถานีเกียวโต นั่งซับเวย์ karasuma line K11 ไปลง สถานี Kitaoji K4 ต่อรถบัส 204 หรือ แท็กซี่ ไปยังวัดทอง คินคาคูจิ(kinkakuji)หรือวัดอิคคิวซัง
วัดคินคาคุจิ หรือ 'วัดทอง' ย้อนเวลากลับไปในยุคที่โชกุนเรืองอำนาจ วัดแห่งนี้ เดิมชื่อ วัดโระคุอนจิ (Rokuonji) เป็นวัดเซน นิกายรินไซ เมื่อปี ค.ศ. 1397 โชกุนอะชิคะงะ โยะชิมิทสึ (Ashikaga Yoshimitsu, ค.ศ.1358-1408) มีความประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พำนักตากอากาศ เมื่อท่านถึงแก่กรรมบุตรชายจึงยกให้เป็นวัดเซนเมื่อ ค.ศ. 1419 โดยใช้ชื่อว่า โระคุอนจิ ตามชื่อภายหลังความตายของบิดา คินคาคุจิมีสามชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นห้องโถงแบบขุนนางสมัยราชสำนักเฮอัน ชั้นที่สองเป็นแบบที่นักรบนิยม ชั้นสูงสุดคือชั้นที่สามเป็นแบบหอปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนานิกายเซน ชั้นสองและสามใช้แผ่นทองปิดโดยรอบ บนยอดวิหารประดับด้วยนกโฮโอสัมฤทธิ์ นกโฮโอนี้เป็นนกในจินตนาการ โดยทั่วไปมักสร้างประดับคู่สถานที่สำคัญ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ ศาลาทอง หรือวิหารทอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นการผสมผสานศิลปะหลายแขนงเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นแบบราชสำนักเฮอัน นักรบซามูไร หรือพุทธศาสนาซึ่งมาจากวัฒนธรรมสามสาขา ทั้งญี่ปุ่น จีน และอินเดีย สถาปัตยกรรมอันวิจิตรนี้ไม่เพียงดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก กล่าวกันว่าคนญี่ปุ่นในยุคแรกสร้างก็ยังตื่นตะลึงในความงามราวเนรมิต สำหรับคินคาคุจิที่โลกได้ยลโฉมหลัง ค.ศ. 1955 นั้น เป็นหลังที่สร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากถูกวางเพลิงจนมอดไหม้เป็นจุณ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1950
มุมมองที่สวยที่สุดของศาลาทอง คือการชมอาคารที่ตั้งอยู่บนดินพร้อมๆ กับที่สะท้อนอยู่ในน้ำ รอบๆ ของศาลาทองเป็นสระน้ำใสราวกระจก เรียกว่า 'เคียวโขะ' คนทั่วไปมักจะได้เห็นภาพนี้ในโปสการ์ดหรือหนังสือท่องเที่ยว แต่ถ้าใครเคยดูเณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง คงพอจะคุ้นตาว่านี่คือสถานที่พำนักของโชกุนเจ้าปัญหาในเรื่องนั่นเอง
12.00น. ออกจากวัดทอง ไปปราสาทนิโจโดยบัส N 204ลงป้ายHorikawa Marutomachi (หาของกินก่อนเข้าปราสาท)
นำท่านชมมรดกโลกแห่งเมืองเกียวโต “ ปราสาทนิโจ ” ( Nijo Castle ) ปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังอำนาจและรัฐบาลภายใต้การดูโชกุน โตกุงาว่า ซึ่งถูกสร้างขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1603 โดย Ieyasu Tokugawa เพื่อเป็นที่พักแห่งแรกของโชกุนตระกูลนี้ และยังเป็นการสร้างเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม Sekigahara … อิสระให้ท่านได้ตื่นตากับความงามและความพิเศษในการปลูกสร้างของตัวปราสาทแห่งนี้ พร้อมบันทึกภาพความงามตามอัธยาศัย ..ส่วนจุดเด่นที่นี่ Nightingale Floors คือพื้นไม้ในปราสาทที่มีเสียงนกไนติงเกลเมื่อมีคนเดินผ่าน
*ออกจากปราสาทนิโจ กลับมายัง สถานีเกียวโต โดย subway nijojomae T14-T13 Karusuma Oike K08 เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว ลง เกียวโต K11
*นั่ง JR Nara line ไปยังเมือง Uji เพื่อเที่ยววัดByodoin
Uji เมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยิ่งของญี่ปุ่น อยู่ทางใต้ของ Kyoto ที่มีชี่อเสียงมากคือ
Byodoin Temple - กับพระพุทธรูป พระอมิตาภะพุทธเจ้า - UNESCO World Heritage 1994 ( รูปวัดที่ปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยน )
แหล่งชาเขียวชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น รวมทั้ง Tsuen Tea ซึ่งจำหน่ายและเสริฟชาตั้งแต่ปีค.ศ.1160 - ถือเป็นร้านน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น อาจเก่าแก่ที่สุดในโลกก็ได้ ( ร้านดั้งเดิมยังดำเนินกิจการอยู่ข้างสะพาน Uji Bridge )
ดื่มด่ำบรรยากาศ แม่น้ำอุจิ กินไอติมรสชาเขียว และขนมจากชาเขียว
*เวลาเย็น ออกจากอุจิ มายังสถานีเกียวโต เดินทางกลับโอซาก้า โดย Haruka ลง Shin Osaka subway ShinsaibashiM19
หาอาหารเย็นกิน ชาบู อูด้ง ราเมง
พักผ่อน ณ Flexstay Shinsaibashi Inn Hotel *แพคกระเป๋าเตรียมไปนอนเกียวโต
7พ.ย 51
6.00 -7.30น. ออกเดินทางจากWMT M19- M24-haruka ไปยัง เกียวโต ถึง สถานีเกียวโต นั่งซับเวย์ karasuma line K11 ไปลง สถานี Kitaoji K4 ต่อรถบัส 204 หรือ แท็กซี่ ไปยังวัดทอง คินคาคูจิ(kinkakuji)หรือวัดอิคคิวซัง
วัดคินคาคุจิ หรือ 'วัดทอง' ย้อนเวลากลับไปในยุคที่โชกุนเรืองอำนาจ วัดแห่งนี้ เดิมชื่อ วัดโระคุอนจิ (Rokuonji) เป็นวัดเซน นิกายรินไซ เมื่อปี ค.ศ. 1397 โชกุนอะชิคะงะ โยะชิมิทสึ (Ashikaga Yoshimitsu, ค.ศ.1358-1408) มีความประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พำนักตากอากาศ เมื่อท่านถึงแก่กรรมบุตรชายจึงยกให้เป็นวัดเซนเมื่อ ค.ศ. 1419 โดยใช้ชื่อว่า โระคุอนจิ ตามชื่อภายหลังความตายของบิดา คินคาคุจิมีสามชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นห้องโถงแบบขุนนางสมัยราชสำนักเฮอัน ชั้นที่สองเป็นแบบที่นักรบนิยม ชั้นสูงสุดคือชั้นที่สามเป็นแบบหอปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนานิกายเซน ชั้นสองและสามใช้แผ่นทองปิดโดยรอบ บนยอดวิหารประดับด้วยนกโฮโอสัมฤทธิ์ นกโฮโอนี้เป็นนกในจินตนาการ โดยทั่วไปมักสร้างประดับคู่สถานที่สำคัญ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ ศาลาทอง หรือวิหารทอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นการผสมผสานศิลปะหลายแขนงเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นแบบราชสำนักเฮอัน นักรบซามูไร หรือพุทธศาสนาซึ่งมาจากวัฒนธรรมสามสาขา ทั้งญี่ปุ่น จีน และอินเดีย สถาปัตยกรรมอันวิจิตรนี้ไม่เพียงดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก กล่าวกันว่าคนญี่ปุ่นในยุคแรกสร้างก็ยังตื่นตะลึงในความงามราวเนรมิต สำหรับคินคาคุจิที่โลกได้ยลโฉมหลัง ค.ศ. 1955 นั้น เป็นหลังที่สร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากถูกวางเพลิงจนมอดไหม้เป็นจุณ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1950
มุมมองที่สวยที่สุดของศาลาทอง คือการชมอาคารที่ตั้งอยู่บนดินพร้อมๆ กับที่สะท้อนอยู่ในน้ำ รอบๆ ของศาลาทองเป็นสระน้ำใสราวกระจก เรียกว่า 'เคียวโขะ' คนทั่วไปมักจะได้เห็นภาพนี้ในโปสการ์ดหรือหนังสือท่องเที่ยว แต่ถ้าใครเคยดูเณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง คงพอจะคุ้นตาว่านี่คือสถานที่พำนักของโชกุนเจ้าปัญหาในเรื่องนั่นเอง
12.00น. ออกจากวัดทอง ไปปราสาทนิโจโดยบัส N 204ลงป้ายHorikawa Marutomachi (หาของกินก่อนเข้าปราสาท)
นำท่านชมมรดกโลกแห่งเมืองเกียวโต “ ปราสาทนิโจ ” ( Nijo Castle ) ปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังอำนาจและรัฐบาลภายใต้การดูโชกุน โตกุงาว่า ซึ่งถูกสร้างขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1603 โดย Ieyasu Tokugawa เพื่อเป็นที่พักแห่งแรกของโชกุนตระกูลนี้ และยังเป็นการสร้างเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม Sekigahara … อิสระให้ท่านได้ตื่นตากับความงามและความพิเศษในการปลูกสร้างของตัวปราสาทแห่งนี้ พร้อมบันทึกภาพความงามตามอัธยาศัย ..ส่วนจุดเด่นที่นี่ Nightingale Floors คือพื้นไม้ในปราสาทที่มีเสียงนกไนติงเกลเมื่อมีคนเดินผ่าน
*ออกจากปราสาทนิโจ กลับมายัง สถานีเกียวโต โดย subway nijojomae T14-T13 Karusuma Oike K08 เปลี่ยนเป็นสายสีเขียว ลง เกียวโต K11
*นั่ง JR Nara line ไปยังเมือง Uji เพื่อเที่ยววัดByodoin
Uji เมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยิ่งของญี่ปุ่น อยู่ทางใต้ของ Kyoto ที่มีชี่อเสียงมากคือ
Byodoin Temple - กับพระพุทธรูป พระอมิตาภะพุทธเจ้า - UNESCO World Heritage 1994 ( รูปวัดที่ปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยน )
แหล่งชาเขียวชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น รวมทั้ง Tsuen Tea ซึ่งจำหน่ายและเสริฟชาตั้งแต่ปีค.ศ.1160 - ถือเป็นร้านน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น อาจเก่าแก่ที่สุดในโลกก็ได้ ( ร้านดั้งเดิมยังดำเนินกิจการอยู่ข้างสะพาน Uji Bridge )
ดื่มด่ำบรรยากาศ แม่น้ำอุจิ กินไอติมรสชาเขียว และขนมจากชาเขียว
*เวลาเย็น ออกจากอุจิ มายังสถานีเกียวโต เดินทางกลับโอซาก้า โดย Haruka ลง Shin Osaka subway ShinsaibashiM19
หาอาหารเย็นกิน ชาบู อูด้ง ราเมง
พักผ่อน ณ Flexstay Shinsaibashi Inn Hotel *แพคกระเป๋าเตรียมไปนอนเกียวโต
Happiness tour to Japan วันที่2
วันที่ 2
6พ.ย 51
6.00น.-7.00น. ออกเดินทางโดยซับเวย์สายแดง m19-m16 ณ สถานีโอซาก้า osaka station ขึ้น JR Kobe line ไปยัง ฮิเมจิ Himeji ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
9.30น. ถึง Himeji เดินทางสู่ปราสาทฮิเมจิ (姫路城Himeji-jo, Himeji Castle)
ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีงดงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก
12.00น. เดินทางไปยังโกเบ (Kobe)
เดินทางภายในเมืองโดย taxi หรือ bus (สถานที่น่าสนใจ อ่าวโกเบ หอคอย เข้าไปเดินเล่นใน Mosaic มี 3 ชั้น (2f-22 DONGURI KYOkWAKOKUของที่ระลึกจาก Studio Ghibli
16.00น. เดินทางกลับโอซาก้า โดยJR ใช้เวลาประมาณ 20 นาที m16-m19
Shopping ตามอัธยาศัยที่ hinsaibashi “ ชินไซบาชิ ” แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองโอซาก้า เพลิดเพลินกับการ “ เลือกชมและซื้อ ” สินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องสำอาง, ข้าวของเครื่องใช้ของทั้งท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็คโทนิค หรือสนุกสนานกับการซื้อของแบบสบายๆ กระเป๋าที่ “ ร้าน 100 เยน ” /Den Den/
อาหารเย็น อาจเป็นชาบู ราเมง ปูยักษ์
พักผ่อน ณ Flexstay Shinsaibashi Inn Hotel
6พ.ย 51
6.00น.-7.00น. ออกเดินทางโดยซับเวย์สายแดง m19-m16 ณ สถานีโอซาก้า osaka station ขึ้น JR Kobe line ไปยัง ฮิเมจิ Himeji ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
9.30น. ถึง Himeji เดินทางสู่ปราสาทฮิเมจิ (姫路城Himeji-jo, Himeji Castle)
ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีงดงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก
12.00น. เดินทางไปยังโกเบ (Kobe)
เดินทางภายในเมืองโดย taxi หรือ bus (สถานที่น่าสนใจ อ่าวโกเบ หอคอย เข้าไปเดินเล่นใน Mosaic มี 3 ชั้น (2f-22 DONGURI KYOkWAKOKUของที่ระลึกจาก Studio Ghibli
16.00น. เดินทางกลับโอซาก้า โดยJR ใช้เวลาประมาณ 20 นาที m16-m19
Shopping ตามอัธยาศัยที่ hinsaibashi “ ชินไซบาชิ ” แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองโอซาก้า เพลิดเพลินกับการ “ เลือกชมและซื้อ ” สินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องสำอาง, ข้าวของเครื่องใช้ของทั้งท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็คโทนิค หรือสนุกสนานกับการซื้อของแบบสบายๆ กระเป๋าที่ “ ร้าน 100 เยน ” /Den Den/
อาหารเย็น อาจเป็นชาบู ราเมง ปูยักษ์
พักผ่อน ณ Flexstay Shinsaibashi Inn Hotel
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)